ความแข็งแกร่งและอนาคตของอนิเมชั่นญี่ปุ่น
จากการสัมมนางาน Thailand Comicon 2014 ในหัวข้อ ความแข็งแกร่งและอนาคตของอนิเมชั่นญี่ปุ่น โดย Michihiko Umezawa CEO ของบริษัท Shin-Ei Animation ซึ่งเป็นบริษัททำอนิเมชั่นเก่าแก่ที่หนึ่งในญี่ปุ่น แต่ละเรื่องที่พวกเขาผลิตออกมานั้น แทบทุกคนต้องรู้จัก นั่นก็คือ Doraemon Crayon Shin-chan และอื่นๆ อีกมากมาย
บริษัท Shin-Ei (ในอดีตชื่อ A Pro) อยู่คู่ญี่ปุ่นมาเนิ่นนานตั้งแต่ปี 1976 โดยจะเน้นทำอนิเมชั่นสำหรับฉายให้กับคนทุกเพศทุกวัย โดยจะมีลักษณะดูง่ายและจบเป็นตอนๆ เรื่องล่าสุดตอนนี้คือ Tonari no Seki-kun เพื่อนเกรียนข้างโต๊ะนี่แหละฮ่าๆ ที่นี่ก็ยังเป็นที่ผลิตอนิเมเตอร์ชื่อดังต่างๆมากมาย เช่น Hayao Miyazaki และ Isao Takahata แห่ง Ghibli ได้เคยทำงานที่นี่เช่นกัน ซึ่งถึงตอนนี้ก็ยังให้โอกาสอนิเมเตอร์รุ่นใหม่ๆ สร้างสรรค์ผลงานเพื่อพัฒนาตนเองอยู่เรื่อยๆ
คุณ Michihiko Umezawa CEO ของบริษัท ได้เล่าเกี่ยวกับข้อดีของอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่สามารถดังไปทั่วโลกได้จนเป็นหนึ่งในอุตสาหกรรมที่ทำเงินได้มากเป็นอันดับต้นๆของญี่ปุ่น และสถานการณ์การเสพอนิเมชั่นของคนญี่ปุ่น และคนทั่วโลกว่ามีความเปลี่ยนแปลงจากเมื่อในอดีตอย่างไร และในอนาคตจะเกิดอะไรขึ้นกับวงการอนิเมชั่นที่มีสื่อในรูปแบบต่างๆ เพิ่มมากขึ้นเรื่อยๆนี้
จุดแข็งของอนิเมชั่นญี่ปุ่นที่ทำให้เป็นที่นิยมออกไปนอกประเทศได้
· ตัวละคร Original ของอนิเมะญี่ปุ่น จะมีความเป็นเอกลักษณ์ น่าจดจำกว่า และประเทศอื่นๆนั้นสามารถสร้างตัวละครออริจินอลที่ดังๆออกมาได้น้อย
· เมื่อเทียบกันแล้ว การ์ตูนของฝั่งอเมริกา จะเน้นเรื่องตลกโครมคราม (เช่น Tom & Jerry และ Popeye) โดยเจาะเป้าหมายไปยังเด็กๆเท่านั้น แต่อนิเมะญี่ปุ่นจะมีธีมของเรื่อง และมีเนื้อเรื่องที่น่าติดตาม ทำให้สามารถดูกันได้ทั้งครอบครัว แม้แต่วัยรุ่นและวัยทำงานก็ให้ความสนใจในอนิเมะด้วย (หลังๆจะเห็นว่าทางฝั่งอเมริกาก็เริ่มซึมซับข้อดีด้านนี้มาแล้ว)
· แต่ละไตเติ้ลของอนิเมะญี่ปุ่นนั้นมีจำนวนตอนที่เยอะมาก (สมัยนั้น อย่างน้อยๆก็ 50 ตอน สำหรับฉายทั้งปี) และยังมีการทำหลายรูปแบบสำหรับแต่ละช่วงอายุด้วย อีกทั้งคนเริ่มดูอนิเมะมาตั้งแต่ปี 80 และ 90 เมื่อคนในยุคนี้มีอายุมากขึ้น พวกเขาก็ยังดูอนิเมะต่อไป ซึ่งเวลาฉายอนิเมะ นั้นมีตั้งแต่ช่วงเช้า เย็น ไปจนถึงรอบดึกเลยทีเดียว
สถานการณ์ในการรับชมอนิเมชั่นของคนในญี่ปุ่น
- หลายๆคนอาจจะได้ยินมาแล้วว่า อัตราการเกิดของคนญี่ปุ่นในยุคนี้นั้นลดลงเรื่อยๆ เนื่องจากคู่สมรสไม่พยายามมีบุตร อันเนื่องมาจากทั้งค่าครองชีพ และที่อยู่อาศัยที่จำกัด ทำให้จำนวนเด็ก อายุระหว่าง 1-14 ปี ในช่วงปี 2012 นั้นลดมาจากปี 1963 จาก 28 ล้านคน ลงมาเหลือ 17 ล้านคนเท่านั้น
- จากภาพ จะเห็นว่าในปี 2012 อุตสาหกรรมอนิเมะในญี่ปุ่น สามารถทำเงินได้ถึง หนึ่งล้านๆสามแสนเยน โดยรายในส่วนใหญ่จะมาจากในประเทศ ด้วยสิ่งที่เรียกว่า วัฏจักรอุตสาหกรรมอนิเมะ(Anime Industry Cycle) เริ่มจากการฉายอนิเมะตามช่องที่วีต่างๆ เมื่อเป็นที่นิยมแล้วจะเริ่มทำการจำหน่ายสินค้าเกี่ยวกับอนิเมะ และนำตัวละครเหล่านั้นมาใช้ในการโฆษณา หรือนำไปโปรโมทสิ่งต่างๆได้ เมื่อมีเงินเหลือก็นำไปทำภาคภาพยนตร์ได้อีก หลังจากนั้นจะเป็นการออกแผ่น BD และ DVD รวมไปถึงแผ่น CD เพลงประกอบต่างๆ คอนเสิร์ต ไลฟ์อีเว้นท์ เกมออนไลน์ได้อีก รวมๆเพียงในประเทศญี่ปุ่นอย่างเดียวก็สามารถทำเงินจากอนิเมะที่มาจากทั่วทั้งโลกรวมกัน
ในปี 2050 ก็มีการคาดการณ์ว่า จำนวนประชากรของญี่ปุ่นจะลดลงไปถึง 25% และ 40% ของประเทศจะมีแต่คนแก่อายุ 65 ปีขึ้นไปด้วย ส่งผลความต้องการในด้านต่างๆ ในประเทศนั้นลดลง ผลกระทบที่ตามมาคือ คนในประเทศจะให้ความสนใจในอนิเมะน้อยลงนั้นเอง